When looking deeply into the doors of the vihara at Wat Phaya Phu, one of the important yet often overlooked works of art in Nan province is the carved wooden door featuring Yaksha guardians. เมื่อมองลึกเข้าไปในประตูวิหารของวัดพญาภู หนึ่งในงานศิลปะที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งของจังหวัดน่านที่ไม่ค่อยทีใครพูดถึง เป็นภาพของกุมภัณฑ์ที่แกะสลักลงบนประตูไม้ใหญ่ได้สะท้อนถึงความเชื่อและอัตลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของชุมชนชาวน่านอย่างเด่นชัด
Like the first light of dawn shimmering over the peak of Doi Phu Kha, a new hope has emerged in the hearts of Nan's residents. เสมือนแสงอรุณที่ทอประกายเหนือยอดดอยภูคา ความหวังใหม่ได้ก่อตัวขึ้นในหัวใจของชาวน่าน ณ โรงแรมน่านตรึงใจ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
Nan: Dawn of Hope Towards Becoming a Member of UNESCO Creative Cities Network น่าน: รุ่งอรุณแห่งความหวังสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก65 จำนวนผู้เข้าชม | Nan: Dawn of Hope Towards Becoming a Member of UNESCO Creative Cities Network น่าน: รุ่งอรุณแห่งความหวังสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโกLike the first light of dawn shimmering over the peak of Doi Phu Kha, a new hope has emerged in the hearts of Nan's residents. On August 19, 2024, at the Nan Trung Jai Hotel, Mueang Nan district, Nan province, an important event that would transform this small city began.เสมือนแสงอรุณที่ทอประกายเหนือยอดดอยภูคา ความหวังใหม่ได้ก่อตัวขึ้นในหัวใจของชาวน่าน ณ โรงแรมน่านตรึงใจ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 งานสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าเมืองเล็กๆ แห่งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วThe striking event decoration, "NAN (way forward to) CREATIVE CITY," designed with intricate detail, reflected the unique beauty of Nan's art and culture. Inspired by the carved wooden giant image on the main door of Phaya Phu Temple, Nan, in Muang Nan district, Nan province. This image was not only beautiful but also deeply meaningful, symbolizing the spiritual power and sacred nature of Nan's important Buddha images.ภาพการตกแต่งงานที่เด่นสะดุดตา "NAN CREATIVE CITY" ที่ออกแบบอย่างวิจิตรบรรจง สะท้อนถึงเอกลักษณ์และความงดงามของศิลปวัฒนธรรมน่าน ด้วยลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพเครื่องไม้จำหลักภาพยักษ์ ณ บานประตูวัดพญาภู อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน โลโก้นี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังแฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง สื่อถึงอิทธิฤทธิ์อำนาจบุญญาบารมีของผู้เข้ารักษาศาสนา และความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปสำคัญประจำเมืองน่านAs the day's first light spread, participants gradually registered amidst an atmosphere of anticipation and excitement. Soon, the opening ceremony officially began. Mr. Chainarong Wongyai, Governor of Nan province, warmly welcomed the participants with a smile, encouraging all participants with the hope of seeing Nan advance onto the world stage. This was followed by Ms. Suparada Karndissayakul, Managing Director of Designated Areas for Sustainable Tourism Administration (DASTA), Nan Office, who gave a report, and Dr. Chumpol Musiganont, Deputy Director of DASTA, who delivered the opening speech. The ceremony included a creative dance performance that impressively showcased the beauty of collaboration of Nan's and Sukhothais art and culture.แสงแรกของวันเริ่มสาดส่อง ผู้เข้าร่วมงานทยอยลงทะเบียน ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความคาดหวังและความตื่นเต้น ไม่นานนัก พิธีเปิดกิจกรรมก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ โดย นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วยรอยยิ้มอบอุ่น พร้อมกระตุ้นทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมด้วยความหวังที่จะเห็นเมืองน่านก้าวไกลสู่เวทีโลก ต่อด้วย นางศุภรดา กานติศยากุล ผู้จัดการ อพท.น่าน กล่าวรายงาน และ ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ รองผู้อำนวยการ อพท. กล่าวเปิดกิจกรรม พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์สร้างสรรค์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของศิลปวัฒนธรรมน่านได้อย่างน่าประทับใจAfter the performance, the representative of Nan Provincial Administrative Organization (Nan PAO), took the stage to present "The Implementation of Creative City Development in Nan Province", filled with determination and vision to develop Nan as a globally recognized city. The atmosphere then shifted to a discussion panel on "Driving Nan towards Becoming a Creative City Network," featuring experts in Thailand's creative city development. This inspired the participants greatly, especially the lecture by Mrs. Prissana Pongtadsirikul on driving and developing creative city networks in Thailand, and Dr.Phattiya Yimrewat, who presented on the importance of ethnic diversity in Nan province that supports its potential to be a creative city network. Ms.Kanokwan Khumwong smoothly moderated the session.เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น ตัวแทนภาคีภาครัฐ ในนามองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ได้ขึ้นเวทีนำเสนอ "การดำเนินงานขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ในจังหวัดน่าน" ซึ่งเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเมืองน่านให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกจากนั้น บรรยากาศงานได้เปลี่ยนเป็นการเสวนาพูดคุย "การขับเคลื่อนเมืองน่านสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์" โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ของประเทศไทย ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรยายของ นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เกี่ยวกับการขับเคลื่อนและพัฒนาเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ในประเทศไทย และ ดร.ภัททิยา ยิมเรวัต ที่ได้นำเสนอถึงความหลากหลายของชาติพันธุ์ในจังหวัดน่านที่เอื้อต่อการเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ โดยมี นางสาวกนกวรรณ คุ้มวงศ์ เป็นผู้ดำเนินรายการอย่างราบรื่นIn the middle of the event, participants were enjoying a folk music performance from folk artists from Nan and Suphan Buri (Creative city of Music, 2023), which perfectly blended Thai cultural elements and reflected the interesting cultural connections between regions.นอกจากการร่วมแบ่งปันความรู้เชิงวิชาการ ผู้เข้าร่วมงานยังได้สนุกสนานและผ่อนคลายไปกับการรับชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านน่าน-สุพรรณบุรี (เมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี ปี 2566) ที่ผสมผสานความเป็นพัฒมิตรของกลุ่มเมืองสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว และ สะท้อนถึงการเชื่อมโยงวัฒนธรรมระหว่างภูมิภาคของไทยได้อย่างน่าสนใจThe afternoon session featured a lecture exchange on the participatory processes of Provincial Administrative Organization (as local governmental unit) in supporting and organizing creative city activities. Mrs.Siriwan Buranasing, Director of the Office of Education, Religion, and Culture of Chiang Mai Provincial Administrative Organization, representing Chiang Mai Creative City, and Col.Nawin Prechapanitchayakul, Managing Director of DASTA Sukhothai Office, representing Sukhothai Creative City, shared their experiences and approaches to driving creative cities. This greatly inspired the people of Nan, emphasizing the importance of preserving and promoting cultural heritage as part of sustainable urban development.ช่วงบ่ายเป็นการบรรยายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านกระบวนการมีส่วนร่วมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในการสนับสนุนและจัดกิจกรรมขับเคลื่อนกิจกรรมเมืองสร้างสรรค์ โดย นางสิริวรรณ บูรณสิงห์ ผอ.สำนักการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบจ.เชียงใหม่ ผู้แทนเมืองสร้างสรรค์เชียงใหม่ และ พันเอกนาวิน ปรีชาพณิชยกุล ผจก.อพท.สุโขทัย ผู้แทนเมืองสร้างสรรค์สุโขทัย ได้มาแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวน่านเป็นอย่างมาก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนช่วงสุดท้ายของงานเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์จบลงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของผู้เข้าร่วมงานทุกคน ที่พร้อมจะร่วมกันผลักดันเมืองน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านThe final part of the discussion and experience-sharing session concluded with excitement and energy from all participants, ready to collectively push Nan towards becoming a member of the UNESCO Creative Cities Network in Crafts and Folk Art field.ช่วงสุดท้ายของงานเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์จบลงด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของผู้เข้าร่วมงานทุกคน ที่พร้อมจะร่วมกันผลักดันเมืองน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านIn the end, although Nan may be a small city, with the power of community and cooperation from all sectors, we believe this grand dream will soon become a reality. Nan will step onto the world stage gracefully, ready to share the beauty of its art and culture, including exquisite wood-carvings and other precious cultural heritage, for the world to witness through its participation in the UNESCO Creative Cities Network (UCCN). Like the dawn light shining on the mountaintop, Nan is about to bloom as a beautiful creative city on the world map.ในท้ายที่สุด เมืองน่านอาจเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ด้วยพลังของชุมชนและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เราเชื่อว่าความฝันที่ยิ่งใหญ่นี้จะเป็นจริงได้ในไม่ช้า และเมืองน่านจะก้าวสู่เวทีโลกอย่างสง่างาม พร้อมที่จะแบ่งปันความงดงามของศิลปวัฒนธรรม ทั้งงานแกะสลักไม้อันวิจิตร และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอื่นๆ ให้ชาวโลกได้ประจักษ์ ผ่านการเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (The UNESCO Creative Cities Network-UCCN) เฉกเช่นแสงอรุณที่ทอประกายบนยอดดอย ส่งผ่านความหวังว่าน่านจะเป็นดั่งดอกไม้ที่เบ่งบานเป็นเมืองสร้างสรรค์ และเป็นที่รู้จักของนานาประเทศในอนาคตอันใกล้นี้
Nan continues to move forward with full force to join UNESCO's "Creative Cities Network" in the field of crafts and folk art. But before we go further, let's get to know this network. น่านยังคงเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก "เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์" ขององค์การยูเนสโก ในสาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน แต่ก่อนจะไปไกลกว่านั้น เรามาทำความรู้จักกับเครือข่ายนี้กันก่อนดีกว่า
Have you ever wondered if the old city walls we see in many provinces could serve purposes beyond being tourist attractions? เคยสงสัยไหมว่า กำแพงเมืองเก่าที่เราเห็นในหลายๆ จังหวัด นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้อีกบ้าง?
When thinking of Nan province, many might picture ancient temples, complex mountain ranges, and valuable Lanna culture. But did you know that in the nooks of this small city,เมื่อพูดถึงจังหวัดน่าน หลายคนอาจนึกถึงภาพวัดวาอารามเก่าแก่ ทิวเขาสลับซับซ้อน และวัฒนธรรมล้านนาอันทรงคุณค่า แต่รู้หรือไม่ว่า ในซอกหลืบของเมืองเล็กๆ แห่งนี้
ในยุคที่ภูมิปัญญาท้องถิ่นกำลังเลือนหายไปตามกาลเวลา วัดแสงดาว ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางในการอนุรักษ์และสืบสานงานช่างพุทธศิลป์อันล้ำค่าของเมืองน่าน ผ่านการจัดตั้ง "ศูนย์การเรียนรู้พุทธศิลป์วัดแสงดาว" In an era where local wisdom is fading with time, Saeng Dao Temple in Fai Kaeo Subdistrict, Phu Phiang District, Nan Province, has emerged as a center for preserving and passing on the valuable Buddhist artistic craftsmanship of Nan.
In a world spinning at the speed of technology, there are still small communities holding fast to their roots and traditional wisdom. Ban Sao Luang in Bo Suak sub-district, ในโลกที่หมุนไปด้วยความเร็วของเทคโนโลยี ยังมีชุมชนเล็กๆ หลายแห่ง ที่ยึดมั่นในรากเหง้าและภูมิปัญญาดั้งเดิม บ้านซาวหลวง ตำบลบ่อสวก อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
Who would have thought that a red and black fabric once used in sacred rituals could become a must-have item for fashionistas? ใครจะคิดว่าลายผ้าสีแดงดำที่เคยใช้ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ จะกลายมาเป็นไอเท็มสุดฮิตติดกระเป๋าเหล่าแฟชั่นนิสต้าได้?
"Le ma seu nyok kong Mlabri" or "Please come buy Mlabri bagsCome and buy Mlabri bags!" The clear voice of a young Mlabri child echoes through the valley "เลอ มา ซือ ญอก คอง มละ เซิม" หรือ "เชิญมาอุดหนุนย่ามของมละบรินะ" เสียงใสๆ ของเด็กน้อยชาวมละบริก้องกังวานอยู่ในหุบเขา
In the land embraced by mountains and flowing rivers, the province of 'Nan' is beloved by travelers who are captivated by the charm of Lanna. ณ ดินแดนที่ขุนเขาโอบล้อม สายน้ำไหลริน จังหวัด 'น่าน' อันเป็นที่รักใคร่ของนักเดินทางผู้หลงใหลในมนตร์เสน่ห์แห่งล้านนา
Natural Tie-Dye (Cold Dyeing) with Local Herbs in Bo Suak, an ancient village in Nan province, is captivating nature-loving tourists and those seeking unique experiences. ณ ชุมชนบ่อสวก แหล่งชุมชนอันเก่าแก่ในจังหวัดน่าน กิจกรรม "ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ (ย้อมเย็น) ด้วยสมุนไพรท้องถิ่น" กำลังดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติและใฝ่หาประสบการณ์แปลกใหม่
Amidst the tranquil waters of the Nan River, a precious creation has emerged from the hands of local artisans and wisdom bearers in Nan Province. The "Nong Ruea Nan Cup," a ceramic product featuring the Nan identity boat design. ท่ามกลางสายน้ำน่านอันเงียบสงบ เกิดสรรค์ผลงานอันล้ำค่าจากฝีมือศิลปินท้องถิ่นและครูภูมิปัญญาในจังหวัดน่าน "ถ้วยน้องเรือน่าน"
Nestled amidst the serene mountains and rivers of Nan Province, a new driving force has emerged. Like a refreshing breeze, "Sla Kud" ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำอันเงียบสงบของจังหวัดน่าน เกิดพลังขับเคลื่อนเคลื่อนลูกใหม่ เปรียบเสมือนสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดพา "สล่ากึ๊ด"
Nestled in the heart of Nan city, on Suman Thevarat Road Soi 2, stands Hong Chao Fong Kham, a two-hundred-year-old wooden house. This architectural gem of Lanna is a treasure trove waiting to be discovered, reflecting the way of life, wisdom, and culture of Lanna that has been passed down to the present day.ณ ใจกลางเมืองน่าน บนถนนสุมนเทวราช ซอย 2 เป็นที่ตั้งของ "โฮงเจ้าฟองคำ" บ้านไม้โบราณอายุกว่าสองร้อยปี สถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงาม เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล้ำค่าที่รอการค้นพบ สะท้อนวิถีชีวิต ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมล้านนาที่ยังคงสืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน
In the heart of Nan Province, a land of mountains and rivers, lies Phumin temple. Built under the reign of the powerful Prince Anantaworaritdet, the temple is a testament to the grandeur of the past. Its magnificent murals tell stories of life, culture, and beliefs from a bygone era.ณ ใจกลางนครน่าน ดินแดนที่รายล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ ภายใต้รัชสมัยของเจ้าอนันตวรฤทธิเดช ผู้ทรงอำนาจ เสียงแห่งการบูรณะครั้งยิ่งใหญ่ดังก้องกังวาน สะท้อนผ่านจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตรตระการตา ณ วัดภูมินทร์ เรื่องราวจากอดีตถูกถ่ายทอดผ่านปลายพู่กัน บอกเล่าวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความเชื่อของผู้คนในยุคนั้น
Where the enchanting melodies of Saw, a traditional singing style from Nan province, intertwine with the lively rhythms of Choi and E-saew music from Suphanburi's rich cultural heritage.จากขุนเขาสู่ทุ่งรวงทอง เสียงดนตรีพื้นบ้านสองวัฒนธรรม ผสมผสานเป็นหนึ่ง บทเพลงแห่งมิตรภาพและการแลกเปลี่ยน เรื่องราวที่รอให้คุณสัมผัส ในงานประชุมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของประเทศไทย (TCCN) ที่จะจัดขึ้น
In the land of Chiang Rai, surrounded by soaring mountains and crystal-clear rivers, the melodies of local wisdom (Chiang Rai Creative City) resound, blending with the cool breeze, creating a warm and joyful atmosphere. ณ จังหวัดเชียงราย ดินแดนที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาสูงเสียดฟ้าและสายน้ำใสสะอาด เสียงเพลงแห่งภูมิปัญญาดังก้องกังวาน ผสมผสานกับสายลมเย็นสบาย สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความรื่นรมย์
Nestled in the serene village of Hia, nestled in the Nan province of Thailand, lies a hidden gem of traditional wisdom and creativity. Phaeo Phafai, a women's weaving group led by the passionate Phaeo Netthiphan, is quietly crafting a sustainable future through their exquisite handwoven textiles. ณ หมู่บ้านเฮี้ย อำเภอปัว จังหวัดน่าน ห่างไกลจากแสงสีและความวุ่นวาย เมล็ดพันธุ์แห่งภูมิปัญญากำลังงอกงาม ผลิบานผ่านผืนผ้าทอมืออันงดงาม ภายใต้ชื่อ "แพวผ้าฝ้าย" ผลงานของกลุ่มทอผ้าบ้านเฮี้ย นำโดย "แพว เนตรทิพย์" หญิงสาวผู้เปี่ยมไปด้วยพลังและหัวใจที่รักบ้านเกิด
Drawing from the wisdom of the Iu Mien ethnic group, Doi Silver and Vanich Jewelry are examples of businesses that carry on the legacy of their ancestors while integrating creative thinking and smart marketing strategies. จากภูมิปัญญาของชนเผ่าอิ้วเมี่ยน ดอยซิลเวอร์ และ วาณิชจิวเวลรี่ เป็นตัวอย่างของธุรกิจที่สืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ และกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด
At Khwang Wiang Sa (Wiang Sa Square), Wiang Sa District, Nan Province, the atmosphere was lively, full of colors and music from the "Nan Fest" event, a festival that combines art, culture, food and music under the shade of Wat Bunyuen Phra Aram Luang, a sacred place of Wiang Sa District, Nan Province. วันที่ 1-3 มีนาคม 2567 ณ ข่วงเวียงสา อ.เวียงสา จ.น่าน บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยสีสันและเสียงดนตรี จากงาน "เทศกาลน่าน หรือ Nan Fest เทศกาลที่รวมเอาศิลปะ วัฒนธรรม อาหาร และดนตรี มาไว้ด้วยกัน ภายใต้ร่มเงาของวัดบุญยืนพระอารามหลวง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของชาวอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
Nestled amidst the tranquil village of Ban Rong Ngae in Nan Province, Thailand, Wat Rong Naeng stands as a testament to faith and cultural heritage. The gentle sound of chanting mingles with the morning breeze, while colorful handwoven textiles sway in the sunlight, creating an atmosphere of serenity that draws visitors from near and far. วัดร้องแง : สถานที่แห่งศรัทธา สะท้อนวิถีไทลื้อ ณ บ้านร้องแง หมู่ที่ 7 ตำบลวรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน เสียงสวดมนต์ดังก้องกังวาน ผสมผสานกับสายลมโชยผ่าน ผืนผ้าทอหลากสีสัน สะท้อนแสงแดดยามเช้า บรรยากาศอันเงียบสงบ ร่มรื่น ของวัดร้องแง ดึงดูดให้ผู้คนแวะเวียนมาเยือน
เมื่อวันที่ 17 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 อพท.น่าน ร่วมมือกับสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกสุโขทัย จัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านงานหัตถกรรม ให้กับ กลุ่มจักสาน (บ้านหลักลาย อำเภอปัว จังหวัดน่าน)
การประชุมเตรียมการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุม เจ้าอนันตวรฤทธิเดช ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดน่าน เพื่อนำเสนอข้อมูลที่สำคัญต่อคณะกรรมการคัดเลือกเมืองต่างๆ เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์อันทรงเกียรติของ UNESCO ในปี 2566
การใช้ประโยชน์จากต้นไม้ประจำจังหวัด โดยการนำมาให้สีแก่ผ้าทอเมืองน่าน นอกจากจะเห็นความงดงามของสีธรรมชาติแล้ว
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าพบปะเพื่อหารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือศึกษาแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่การเป็น สมาชิกเครือข่ายสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านนำคณะทำงานขับเคลื่อนจังหวัดน่านสู่การเป็นสมาชิกเครือข่ายองค์การยูเนสโก พบปะหารือ นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และคณะ ณ โรงแรม Royal Diamond อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
หอศิลป์ริมน่าน (Nan Riverside Arts Space) เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นและเป็นสถานที่สำหรับศิลปะแขนงต่างๆ
“เสื้อ BCG กุญแจสู่ความยั่งยืน” ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน (นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต) สวมใส่ในพิธีเปิดงาน “กิจกรรมเชื่อมโยงและทดสอบตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องเงินและผ้าทอน่าน สู่นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์” (Inno - Creative Design Showcase) เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ณ ถนนผากอง จังหวัดน่าน ซึ่งจัดโดยจังหวัดน่านและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน
เมืองน่านปรากฏงานหัตถศิลป์ที่สำคัญคือการผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่ “บ้านเตาไหแช่เลียง” ในบริเวณปัจจุบันเป็นแหล่งโบราณคดีที่ชื่อว่าแหล่งเตาบ่อสวก โดย “บ้านเตาไหแช่เลียง” ปรากฏในเอกสารพื้นเมืองน่านหลายฉบับ เช่น ฉบับวัดพระเกิด