691 จำนวนผู้เข้าชม |
Nestled amidst the serene mountains and rivers of Nan Province, a new driving force has emerged. Like a refreshing breeze, "Sla Kud" - a group of passionate young minds - is determined to awaken Nan from its "slow-paced" ways and embrace a life brimming with potential and new opportunities.
ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำอันเงียบสงบของจังหวัดน่าน เกิดพลังขับเคลื่อนเคลื่อนลูกใหม่ เปรียบเสมือนสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดพา "สล่ากึ๊ด" เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มคนทั้งรุ่นเก่าและใหม่ไฟแรงผู้มุ่งมั่น ปลุกน่านให้ตื่นจาก "น่านเนิบๆ" สู่วิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยศักยภาพและโอกาสใหม่ ๆ
"Sla Kud" translates to "thoughtful artisan" meaning "thinkers and doers" and this group of creative individuals, urban developers, entrepreneurs, and artists from Nan are committed to using local arts and culture as a driving force for their city. They have come together to initiate numerous projects, breathing life into Nan like a cool breeze.
สล่ากึ๊ด หมายถึง "ช่างผู้คิด" กลุ่มคนสร้างสรรค์ นักพัฒนาเมือง ผู้ประกอบการ และศิลปินชาวน่านที่มุ่งมั่นใช้ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นพลังขับเคลื่อนเมือง พวกเขารวมตัวกันเพื่อริเริ่มโครงการต่าง ๆ มากมาย เปรียบเสมือนสายลมเย็นที่พัดพาชีวิตชีวาให้กับน่าน
Notable Sla Kud Achievements:
Nan Fest: This festival provides a platform for local and emerging artists to showcase their work, fostering opportunities for exchange and learning while stimulating the local economy. The festival is a vibrant cultural extravaganza, blending tradition with modernity, attracting visitors from around the globe to experience Nan's unique charm. The event features a diverse range of cultural activities, art exhibitions, musical performances, and creative workshops, serving as a treasure trove of entertainment, inviting people to immerse themselves in the beautiful lifestyle, culture, and traditions of Nan.
ผลงานที่โดดเด่นของสล่ากึ๊ด:
งานเทศกาลศิลปะน่าน (Nan Arts Fest): งานเทศกาลที่เปิดพื้นที่ให้ศิลปินท้องถิ่นและศิลปินรุ่นใหม่ได้แสดงผลงาน สร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น เป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งวัฒนธรรม ผสมผสานกับความทันสมัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมสัมผัสกับเสน่ห์อันล้ำค่าของเมืองน่านภายในงานมีทั้งกิจกรรมทางวัฒนธรรม นิทรรศการศิลปะ การแสดงดนตรี และกิจกรรมสร้างสรรค์อีกมากมาย เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งความบันเทิงนำพาผู้คนมาสัมผัสกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประเพณีอันงดงามของชาวน่าน
They ignite a spark of creativity, empowering the people of Nan to join hands in shaping their future, transforming Nan from a tranquil city into a vibrant hub brimming with opportunities and new possibilities.
Sla Kud's slogan, "Think, Nan, Change," reflects their unwavering vision to propel Nan's progress and modernization without compromising its deep-rooted heritage and unique identity.
สล่ากึ๊ด เปรียบเสมือนแสงเทียนแห่งความหวังพวกเขาจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ปลุกพลังให้คนน่านลุกขึ้นมาร่วมสร้างสรรค์อนาคต เปลี่ยนน่านจากเมืองที่เงียบสงบ สู่เมืองที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ
สโลแกนของสล่ากึ๊ด "คิด น่าน เปลี่ยน" สะท้อนถึงวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ของพวกเขา มุ่งมั่นที่จะพัฒนาจังหวัดน่านให้ก้าวหน้า ทันสมัย โดยไม่ทิ้งรากเหง้าและเอกลักษณ์อันล้ำค่าของท้องถิ่น
Their efforts are a symphony that propels Nan Province towards a new way of life, infused with energy, creativity, and potential. They serve as an inspiration to the younger generation, demonstrating that Nan is not merely a slow-paced city but one brimming with opportunities and dreams waiting for the next generation to seize.
เป็นบทเพลงที่ขับเคลื่อนจังหวัดน่านสู่วิถีชีวิตใหม่ เต็มไปด้วยพลัง ความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพ พวกเขาคือแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ สอนให้รู้ว่า "น่าน" ไม่ได้มีแค่น่านเนิบๆ แต่ยังมีน่านที่เต็มไปด้วยโอกาสและความฝันรอให้คนรุ่นใหม่คว้าไว้
With the unwavering determination and creativity of the Sla Kud group, there is no doubt that Nan Province will usher in a golden era, a time of transformation, when Nan will blossom into a city brimming with potential, attracting visitors from across the globe and generating sustainable income for the community.
ด้วยพลังความมุ่งมั่นและความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มสล่ากึ๊ด เชื่อได้ว่าจังหวัดน่านจะก้าวสู่ยุคทอง ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ยุคที่น่านจะกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศักยภาพ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน