873 Views |
When thinking of Nan province, many might picture ancient temples, complex mountain ranges, and valuable Lanna culture. But did you know that in the nooks of this small city, a major revolution is happening in the folk handicraft industry, which is about to transform basketry into a global fashion product?
เมื่อพูดถึงจังหวัดน่าน หลายคนอาจนึกถึงภาพวัดวาอารามเก่าแก่ ทิวเขาสลับซับซ้อน และวัฒนธรรมล้านนาอันทรงคุณค่า แต่รู้หรือไม่ว่า ในซอกหลืบของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ กำลังเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ในวงการหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าของงานจักสานให้กลายเป็นสินค้าแฟชั่นระดับโลก
From Ancient Wisdom to Contemporary Innovation
Basketry is a wisdom that has long been part of Thai society. In the past, villagers wove baskets, containers, or fishing tools for daily use. But who would have thought that today, these woven items would become "trendy" products making good money for villagers?
Assistant Professor Phusadee Saiwong from Nan Community College, the person behind this project, excitedly explains, "In Nan, we have a wide variety of basketry from natural materials - bamboo, rattan, reed, and even the rare triangular grass. It's a shame that not many people know about this. We want to push these to be widely recognized and generate income for the community at the same time."
จากภูมิปัญญาโบราณสู่นวัตกรรมร่วมสมัย
งานจักสานเป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน ในอดีต ชาวบ้านสานตะกร้า กระบุง หรือเครื่องมือจับสัตว์น้ำเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ใครจะคิดว่าวันนี้ เครื่องจักสานเหล่านั้นจะกลายเป็น "ของฮิต" ที่ทำเงินให้ชาวบ้านได้อย่างงามๆ
อาจารย์ผุสดี สายวงศ์ อาจารย์ประจำวิทยาลัยชุมชนน่าน ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ เล่าให้ฟังด้วยความตื่นเต้นว่า "ที่น่านเรามีงานจักสานจากวัสดุธรรมชาติหลากหลายมาก ทั้งไม้ไผ่ หวาย กก แถมยังมีหญ้าสามเหลี่ยมที่หาได้ยากอีกต่างหาก แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เราจึงอยากผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และสร้างรายได้ให้กับชุมชนไปพร้อมๆ กัน"
Blending Past and Present
Nan Community College and the Designated Areas for Sustainable Tourism Administration (DASTA) have collaborated to elevate basketry into contemporary products that meet modern market needs through three key processes:
Study: The team collected historical data and local wisdom from village sages in 5 districts: Mueang, Phu Phiang, Tha Wang Pha, Pua, and Bo Kluea, to understand the roots and value of traditional basketry.
Preserve: The knowledge gained is passed on and practiced with the new generation to prevent ancient weaving techniques from being lost over time.
Create: Blending traditional techniques with modern design, developing patterns and product forms to meet current market demands.
From Classroom to Global Market
The uniqueness of this project lies in developing a "Creative Basketry" curriculum that allows interested individuals to learn and practice comprehensive basketry skills, from material selection and design to marketing.
"The response exceeded expectations!" Phusadee smiles. "Our first batch of 20 students could generate income from selling creative woven products like hats, ceremonial trays, and artificial flowers. Some even quit their regular jobs to pursue basketry full-time."
Learning Center: Incubator for New Creative Talents
Besides the curriculum, Nan Community College has established a "Creative Basketry Handicraft Learning Center" within the college to serve as a knowledge hub, showcase
การผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน
สำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเมืองเก่าน่าน (อพท.น่าน) ได้ร่วมมือกันในการยกระดับงานจักสานให้เป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยที่ตอบโจทย์ตลาดสมัยใหม่ โดยผ่านกระบวนการสำคัญ 3 ขั้นตอน:
ศึกษา: ทีมงานลงพื้นที่เก็บข้อมูลประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นจากปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ภูเพียง ท่าวังผา ปัว และบ่อเกลือ เพื่อเข้าใจรากเหง้าและคุณค่าของงานจักสานดั้งเดิม
สืบสาน: นำความรู้ที่ได้มาถ่ายทอดและฝึกฝนให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อให้เทคนิคการจักสานแบบโบราณไม่สูญหายไปตามกาลเวลา
สร้างสรรค์: ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมกับการออกแบบสมัยใหม่ พัฒนาลวดลายและรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดปัจจุบัน
จากห้องเรียนสู่ตลาดโลก
ความพิเศษของโครงการนี้คือการพัฒนาหลักสูตร "จักสานเชิงสร้างสรรค์" ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจทั่วไปได้เข้ามาเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการจักสานแบบครบวงจร ตั้งแต่การเลือกวัสดุ การออกแบบ ไปจนถึงการทำการตลาด
"ผลตอบรับเกินคาด!" อาจารย์ผุสดีเล่าด้วยรอยยิ้ม "นักเรียนรุ่นแรกของเรา 20 คน สามารถสร้างรายได้จากการขายผลงานจักสานสุดครีเอทอย่างหมวก พานพุ่ม และดอกไม้ประดิษฐ์ บางคนถึงกับลาออกจากงานประจำมาทำจักสานเต็มตัวเลยนะคะ"
From Classroom to Global Market
The uniqueness of this project lies in developing a "Creative Basketry" curriculum that allows interested individuals to learn and practice comprehensive basketry skills, from material selection and design to marketing.
"The response exceeded expectations!" Phusadee smiles. "Our first batch of 20 students could generate income from selling creative woven products like hats, ceremonial trays, and artificial flowers. Some even quit their regular jobs to pursue basketry full-time."
Learning Center: Incubator for New Creative Talents
Besides the curriculum, Nan Community College has established a "Creative Basketry Handicraft Learning Center" within the college to serve as a knowledge hub, showcase examples, and provide a space for idea exchange between old and new generation weavers.
"We want this place to be like a second home for basketry enthusiasts," Phusadee says. "Anyone with new ideas can come and experiment here. We have experts to advise, materials ready, and like-minded friends to exchange opinions with."
Impact on Community and Local Economy
Elevating basketry to creative products not only generates income for weavers but also positively impacts the community and local economy at large:
Job creation in the community: Local employment from raw material collection to production and sales.
Environmental conservation: Promoting the use of local natural materials, reducing plastic and synthetic material use.
Cultural tourism: Attracting tourists interested in learning local wisdom, generating income for local accommodation and restaurants.
Cultural preservation: Maintaining traditional knowledge while making it contemporary.
ศูนย์เรียนรู้: แหล่งบ่มเพาะนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่
นอกจากหลักสูตรการเรียนการสอนแล้ว ทางวิทยาลัยชุมชนน่านยังได้จัดตั้ง "ศูนย์เรียนรู้หัตถกรรมจักสานสร้างสรรค์" ขึ้นภายในวิทยาลัย เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ ตัวอย่างผลงาน และเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างช่างจักสานรุ่นเก่าและรุ่นใหม่
"เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของคนที่รักงานจักสาน" อาจารย์ผุสดีกล่าว "ใครมีไอเดียอะไรใหม่ๆ ก็สามารถมาทดลองทำได้ที่นี่ เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ มีวัสดุอุปกรณ์พร้อม แถมยังมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วย"
ผลกระทบต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น
การยกระดับงานจักสานให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับช่างจักสานเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่นในวงกว้าง:
การสร้างงานในชุมชน: เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บวัตถุดิบไปจนถึงการผลิตและจำหน่าย
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: ส่งเสริมการใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น ลดการใช้พลาสติกและวัสดุสังเคราะห์
การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับธุรกิจที่พักและร้านอาหารในพื้นที่
การสืบสานวัฒนธรรม: รักษาองค์ความรู้ดั้งเดิมไว้ไม่ให้สูญหาย พร้อมทั้งต่อยอดให้ร่วมสมัย
Looking Ahead: The Future of Creative Basketry
Although this project has achieved some success, Phusadee and her team aren't stopping here. They have plans to develop the project further in the future:
Expand the network: Collaborate with educational institutions and other agencies nationwide.
Develop online marketing channels: Increase opportunities to reach both domestic and international customers.
Research and development: Study methods to increase the durability of woven products without destroying their natural qualities.
Brand building: Push "Nan Basketry" to be recognized internationally.
From ordinary household items, today basketry is about to become a "money-maker" for Nan people without them realizing it. This is a great example of adapting local wisdom to modern times, creating economic value-added, and preserving valuable culture simultaneously.
For those interested in viewing creative basketry works from Nan or wishing to order products, you can contact the Nan Identity Hall, which serves as a central hub for exhibiting and coordinating local handicraft groups. Here, you'll get to experience the beauty of Nan basketry up close and have the opportunity to talk directly with producers to order customized products according to your needs.
And who knows, in the near future, we might see woven bags from Nan showcased on global fashion runways. This is the power of Thai wisdom that never dies, just waiting to be modernized! You can be part of supporting this folk art to advance internationally by visiting and patronizing works from the Nan Identity Hall, the hub of Nan's artisanal spirit.
มองไปข้างหน้า: อนาคตของจักสานสร้างสรรค์
แม้ว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว แต่อาจารย์ผุสดีและทีมงานก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ พวกเขามีแผนที่จะพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคต:
ขยายเครือข่าย: สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานอื่นๆ ทั่วประเทศ
พัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์: เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
วิจัยและพัฒนา: ศึกษาวิธีการเพิ่มความทนทานของผลิตภัณฑ์จักสานโดยไม่ทำลายความเป็นธรรมชาติ
สร้างแบรนด์: ผลักดันให้ "จักสานน่าน" เป็นที่รู้จักในระดับสากล
จากของใช้ในครัวเรือนธรรมดา วันนี้งานจักสานกำลังจะกลายเป็น "ทำเงิน" ให้ชาวน่านแบบไม่รู้ตัว นี่คือตัวอย่างที่ดีของการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอดให้เข้ากับยุคสมัย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และรักษาวัฒนธรรมอันล้ำค่าไว้ไปพร้อมๆ กัน
สำหรับผู้ที่สนใจชมผลงานจักสานสร้างสรรค์จากน่าน หรือต้องการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่หออัตลักษณ์น่าน ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจัดแสดงและประสานงานของกลุ่มหัตถกรรมท้องถิ่น ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของงานจักสานน่านอย่างใกล้ชิด และมีโอกาสพูดคุยกับผู้ผลิตโดยตรง เพื่อสั่งทำผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของคุณ
และใครรู้ บางทีในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจได้เห็นกระเป๋าจักสานจากน่านไปอวดโฉมบนรันเวย์แฟชั่นระดับโลกก็เป็นได้ เพราะนี่คือพลังของภูมิปัญญาไทยที่ไม่มีวันตาย เพียงแต่รอการต่อยอดให้ทันสมัยเท่านั้นเอง! และคุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนศิลปะพื้นบ้านนี้ให้ก้าวไกลสู่สากลได้ ด้วยการเยี่ยมชมและอุดหนุนผลงานจากหออัตลักษณ์น่าน แหล่งรวมจิตวิญญาณแห่งงานหัตถศิลป์ของชาวน่านนั่นเอง