451 Views |
In a world spinning at the speed of technology, there are still small communities holding fast to their roots and traditional wisdom. Ban Sao Luang in Bo Suak sub-district, Mueang Nan district, Nan province, is one such place. Here, threads of the past are woven into the present through the skillful hands of a women's group preserving the art of textile weaving.
ในโลกที่หมุนไปด้วยความเร็วของเทคโนโลยี ยังมีชุมชนเล็กๆ หลายแห่ง ที่ยึดมั่นในรากเหง้าและภูมิปัญญาดั้งเดิม บ้านซาวหลวง ตำบลบ่อสวก อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน คือหนึ่งในนั้น ที่นี่ สายใยแห่งอดีตถักทอเข้ากับปัจจุบันผ่านฝีมือของกลุ่มสตรีผู้สืบสานงานผ้าทอ
From Local Wisdom to Community Identity
The textiles of Ban Sao Luang are not mere fabrics; they are reflections of the community's way of life and history. Distinctive patterns and forms of “sin” or “phasin skirt” such as the “Lai Nam Lai” (flowing water pattern), “Sin Maan” (Phasin skirt that the gap between patterns are not equal. But there is a certain structure.) , and “Sin Pong” (Phasin skirt that the space between patterns are the same throughout its body.)
designs all tell local stories. But the most outstanding is the "Bo Suak pattern," inspired by designs found on 700-year-old pottery excavated from ancient kilns in the sub-district.
Wallapa Inpong, Vice President of the Ban Sao Luang Weaving Community Enterprise, explains, "Weaving knowledge has been passed down through generations, from grandmothers to mothers and children. Initially, we wove fabrics for household use, but with the community's vision, we formed a group in 1984 to generate additional income from this wisdom."
จากภูมิปัญญาสู่อัตลักษณ์ชุมชน
ผ้าทอบ้านซาวหลวงไม่ใช่แค่เพียงผืนผ้าธรรมดา แต่เป็นภาพสะท้อนวิถีชีวิตและประวัติศาสตร์ของชุมชน ลวดลายและรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ อย่างซิ่นลายน้ำไหล ซิ่นม่าน และซิ่นป้อง ล้วนบอกเล่าเรื่องราวของท้องถิ่น แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ "ผ้าลายบ่อสวก" ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากลวดลายบนเครื่องปั้นดินเผาโบราณอายุกว่า 700 ปีที่ขุดพบในแหล่งขุดค้นทางโบราณคดีของตำบล
นางวัลลภา อินผ่อง รองประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มทอผ้าบ้านซาวหลวง เล่าว่า "ความรู้เรื่องการทอผ้าถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากย่ายาย สู่แม่ และลูกหลาน เดิมทีเราทอผ้าไว้ใช้ในครัวเรือน แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของคนในชุมชน เราจึงรวมกลุ่มกันในปี 2527 เพื่อสร้างรายได้เสริมจากภูมิปัญญานี้"
Continuous Development
The success of Ban Sao Luang textiles group didn't happen overnight but resulted from continuous development and support from various sectors. The weaving group has blended traditional patterns with the community's new identity while diversifying products to meet modern market demands, from clothing and shawls to home decorations and souvenirs.
Support from government agencies and educational institutions has helped elevate the quality and standards of the products. The Nan Community Development Office has certified OTOP product standards, while the Nan Provincial Industrial Office has awarded the Community Product Standard (CPS). Additionally, Rajamangala University of Technology Lanna Nan is collaborating on development using AI technology to design new fabric patterns and product forms. Chulalongkorn University has assisted in developing new weaving techniques and creating new patterns, while the Department of Sericulture has supported the development of silk thread usage and dyeing techniques.
Support from the Designated Areas for Sustainable Tourism Administration (DASTA) led to the creation of the 'Nan Noe Chao' brand, uniting textile producers in Nan province. This effort strengthened the local products' appeal and recognition, culminating in the “PATA Gold Awards 2020 : Women Empowerment Initiative” category. This success underscores the development that not only preserves local wisdom but also builds sustainable community strength.
การพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง
ความสำเร็จของผ้าทอบ้านซาวหลวงไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน กลุ่มทอผ้าได้ผสมผสานลวดลายดั้งเดิมเข้ากับอัตลักษณ์ใหม่ของชุมชน พร้อมทั้งแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของตลาดสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผ้าคลุม ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงของที่ระลึก
การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาได้ช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ โดยพัฒนาชุมชนจังหวัดน่าน (พช.น่าน) ได้ให้การรับรองมาตรฐานสินค้า OTOP ขณะที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่านได้มอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน กำลังร่วมพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี AI ในการออกแบบลายผ้าและรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ช่วยพัฒนารูปแบบและเทคนิคการทอ รวมถึงการสร้างลวดลายใหม่ ในขณะที่กรมหม่อนไหมได้สนับสนุนการพัฒนาการใช้เส้นไหมและเทคนิคการย้อมสี
การสนับสนุนจากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ยังนำมาซึ่งการสร้างแบรนด์ 'น่านเน้อเจ้า' ซึ่งรวมกลุ่มผู้ผลิตผ้าทอในจังหวัดน่าน สร้างพลังและการจดจำให้กับสินค้าพื้นเมือง จนได้รับรางวัล PATA Gold Awards 2020 ประเภท Women Empowerment Initiative ตอกย้ำถึงความสำเร็จในการพัฒนาที่ไม่เพียงแต่รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ยังสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน
From Handicraft to Cultural Tourism
Today, Ban Sao Luang is not just a source of quality textiles but also an interesting cultural tourism destination. Visitors can learn about the weaving process from organic cotton cultivation to weaving on traditional looms. This form of tourism not only impresses but also helps preserve local wisdom.
จากงานฝีมือสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ปัจจุบัน บ้านซาวหลวงไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตผ้าทอคุณภาพ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้กระบวนการทอผ้าตั้งแต่การปลูกฝ้ายออร์แกนิค ไปจนถึงการทอผ้าด้วยกี่พื้นบ้าน เป็นการท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจ แต่ยังช่วยสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่
The Power of Creativity and Sustainability
Ban Sao Luang textiles exemplify how traditional wisdom can be adapted for the modern era through the power of community women. This success not only generates income but also preserves valuable identity and culture, serving as a model for sustainable development that balances conservation and creativity.
In an era where the world seeks authenticity and meaning, Ban Sao Luang textiles are more than products; they are living art. They are threads connecting the past, present, and future through the hands of powerful women in Nan province.
พลังแห่งการสร้างสรรค์และความยั่งยืน
ผ้าทอบ้านซาวหลวงเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำภูมิปัญญาดั้งเดิมมาปรับใช้ในยุคสมัยใหม่ ผ่านพลังของสตรีในชุมชน ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ แต่ยังรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอันล้ำค่า เป็นแบบอย่างของการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่สมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการสร้างสรรค์
ในยุคที่โลกกำลังมองหาความจริงแท้และความหมาย ผ้าทอบ้านซาวหลวงจึงไม่ใช่เพียงสินค้า แต่เป็นงานศิลปะที่มีชีวิต เป็นสายใยที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าด้วยกัน ผ่านฝีมือของสตรีผู้ทรงพลังแห่งเมืองน่าน